คำถามคือ คุณจะรู้ได้ยังไงล่ะ? อ่านให้จบ ผมจะเฉลยให้ฟังครับ!

“วิธีนี้เป็นวิธีที่บริษัทผมพิสูจน์เองมาแล้วเช่นกันครับ รับรองว่าถ้าคุณนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ คุณจะได้พนักงานตามที่ต้องการแน่นอน”

ผมได้ใช้วิธีนี้ ในการสร้างธุรกิจ ให้บริการพนักงานขับรถ ชื่อว่า U DRINK I DRIVE ซึ่งเริ่มจากมีพนักงานแค่ 1 คน จนตอนนี้มี พนักงานขับรถกว่า 650 คน แล้วในปัจจุบัน

ธุรกิจนี้ให้บริการปีละ 1 แสนเที่ยว โดย 99% จะได้รับเรตติ้ง 5 ดาวจากลูกค้าอยู่เสมอ ลูกค้าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นรถยุโรป เช่น BMW, Benz, Audi, Porsche จนไปถึง Ferrari, Lamborghini ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ซ้ำ และ บอกต่อเพื่อนฝูง

นอกจากนั้นยังได้รับโอกาสในการให้บริการกับบริษัทใหญ่ๆ มากมาย เช่น Thai rent a car, Huawei, SCG, BMW Thailand, Mercedes Benz Thailand.

และเป็นบริษัทไทยบริษัทเดียวที่ได้รับเลือกโดย บริษัท หลุยวิตตอง (Louis Vuitton) ให้รับส่งลูกค้าระดับ VVIP จากทั่วโลก

สิ่งที่ผมกำลังจะเล่าให้คุณฟังนี้ เป็น เทคนิคที่ บริษัท ของผมใช้จนบริษัทเติบโตมาแล้ว ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

5 เทคนิคการคัด พนักงานขับรถ ขั้นเทพ มาดูกันเลย!

 อย่างแรกเลย คือคุณจะต้องมีข้อสอบเส้นทาง ให้ พนักงานทำ เพื่อคัดกรอง พนักงานที่ไม่รู้ทางออก ซึ่งคำถามที่คุณควรจะถามก็เช่น

• อโศกคือซอยสุขุมวิทที่เท่าไหร่
• สนามบินดอนเมืองอยู่ติดกับถนนอะไร
• หากคุณอยู่ที่สยามแล้วจะขับไปที่อ่อนนุช คุณสามารถไปด้วยถนนเส้นใดบ้าง และ คุณจะเลือกไปด้วยเส้นทางไหน เพื่อไปถึงให้เร็วที่สุด

พยายามถามให้ครอบคลุมกับสถานที่ๆ คุณมักจะมีโอกาศได้ไปบ่อยๆ หรือให้ถามให้ครอบคลุมทั้ง กทม. ได้ก็จะดีที่สุด ควรถามซัก 20-50 ข้อเพื่อความแม่นยำนะครับ

 การสัมภาษณ์ พนักงานนั้น ให้แบ่ง การสัมภาษณ์ เป็น 3 ส่วน เพื่อคัดพนักงานดังนี้

1. พนักงานจะอยู่ยาวหรือไม่
2. พนักงานมีความสามารถที่จะทำงานนี้มั้ย
3. พนักงานมีจิตใจ และ มารยาทที่ดีหรือไม่

ในการวัดว่า พนักงานจะอยู่กับคุณยาวหรือไม่

ให้ดูหลักๆ คือ รายได้, ไลฟ์สไตล์ ว่าเหมาะกับงานมั้ย เช่น

• รายได้ที่เค้าเคยได้มาก่อนหน้านี้ ควรจะต้องน้อยกว่า หรือ เท่ากับ เงินเดือนที่คุณจะให้เท่านั้น ถ้าเคยได้มากกว่าเยอะ ก็มีแนวโน้มสูงว่าจะอยู่ไม่ยาว นอกจากรายได้แล้ว ควรถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้วยว่าเค้าจำเป็นต้องใช้เท่าไหร่ต่อเดือนเป็นค่าอะไรบ้าง

• บ้านของพนักงาน ควรจะต้องอยู่ใกล้ที่ทำงาน หรือ เดินทางได้สะดวก เท่านั้น หากอยู่ไกล ค่าเดินทางแพง รถติด รับรองครับ อยู่ไม่นานแน่ๆ

• เวลางานก็เป็นหนึ่งในปัจจัย เช่นพนักงานชอบทำงานตอนเช้า แต่คุณเป็นคนตื่นสาย เลิกงานดึก ทำให้พนักงานไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เป็นต้น ในเคสนี้การเลือกพนักงานที่เป็นโสด และ ชอบตื่นนอนในเวลาแบบเดียวกับคุณ ย่อมเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า

• ถามพนักงานว่าทำไมถึงออกจากงานเก่า? เช่นหากพนักงานบอกคุณว่า เค้าออกจากงานเก่าเพราะเจ้านายคนเดิมชอบดูดบุหรี่ในรถ บางวันจะมีออกไปปาร์ตี้เลิกดึก บางวันต้องไปต่างจังหวัดค้างคืน คุณก็จะได้ดูว่าตรงกับคุณมั้ย หากคุณก็เป็นเหมือนกัน คุณจะได้รู้ว่าพนักงานคนนี้จะอยู่กับคุณได้ไม่ยาว

พนักงานมีความสามารถที่จะทำงานนี้มั้ย

ประสบการณ์ที่เคยทำงานมาย่อมบ่งบอกได้ในระดับนึงว่าจะสามารถทำงานนี้ได้มั้ย เช่น หากเคยขับรถให้นายญี่ปุ่นมาก่อน ก็จะมีแนวโน้มที่จะให้บริการดี และ ตรงเวลา ส่วนคนที่เคยขับ TAXI มาก่อน ก็มีแนวโน้มที่จะรู้ทาง เป็นต้น

ยกตัวอย่างคำถาม

• ประสบการณ์การทำงานเคยทำอะไรมาก่อนบ้างที่เกี่ยวข้อง

• เคยเป็นพนักงานขับรถให้ใครมาก่อนหรือไม่ 

• เคยขับรถยุโรป หรือไม่ ขับรถเกียร์กระปุกได้มั้ย ขับรถประเภทไหนได้บ้าง

• ขอทราบข้อดี 3 อย่างในตัวคุณ
• ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเหมาะกับงานนี้

พนักงานมีจิตใจ และ มารยาทที่ดีหรือไม่

คุณต้องให้ เค้าวิจารณ์ตัวเอง และ ผู้อื่นในด้านลบ ให้จินตนาการณ์ถึงสถานการณ์ด้านลบ ถามวิธีแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เป็นด้านลบ แล้วฟังมุมมองความคิดของเค้าที่มีต่อสิ่งต่างๆ หากถามแบบไม่ให้ทันได้ตั้งตัว ก็สามารถทำให้คุณเห็นจิตใจของคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยกตัวอย่างคำถาม

• หากมีเกย์มาลวนลามคุณๆ จะทำอย่างไร และ พูดกับเค้าว่าอย่างไร พูดให้ฟังหน่อย 
• เรื่องที่คุณโมโหง่ายที่สุดคือเรื่องอะไร
• เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเป็นอย่างไร
• หากมีคนตวาดใส่คุณ ทั้งๆที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิดคุณจะตอบกลับอย่างไร
• ทำไมถึงลาออกจากที่ทำงานเดิม ให้วิจารณ์ให้ฟังหน่อย
• ข้อเสีย 3 ข้อในตัวคุณคืออะไรบ้าง

1. หน้าที่ต่างๆของพนักงาน การเข้างาน เวลางาน การลางาน

2. การแต่งกาย

3. วิธีการให้บริการ เช่น การเปิดประตูรถ การช่วยถือของ การพูดคุยอย่างสุภาพ และ ไม่มากน้อยจนเกินไป

4. วิธีการใช้ google map และ การศึกษาเส้นทาง ก่อนเดินทาง เพื่อเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด

5. การดูแลรถ และ เช็ครถก่อนลงจากรถ

6. กฎที่ห้ามทำ เช่นความเร็วที่กำหนด การคุยโทรศัพท์ เล่นไลน์ขณะขับรถ

7. ทฤษฎีการขับรถให้ผู้นั่งประทับใจ และ ปลอดภัย

8. สิ่งที่ต้องทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

4. ทดสอบการขับรถ

ในการจะรู้ว่าพนักงานจะขับรถได้ดีมั้ย ไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่า การให้เค้า ขับรถจริงๆ ให้คุณดู แล้วคุณนั่งไปด้วย

โดยคุณควรพาไปบนถนน ดังนี้

1. ในซอย ที่มีหลุม มีบ่อ มีลูกระนาด เยอะๆ เพื่อสังเกตว่า เจอลูกระนาดแล้ว เบรคก่อนขึ้นมั้ย เจอหลุมแล้วหลบมั้ย หากหลบไม่ได้ หยอดเป็นมั้ย
2. พาไปซอยแคบๆ เพื่อ เช็คว่าเมือมีรถสวนแล้ว เค้าจะสามารถ กะระยะหลบรถคันอื่นได้เป็นอย่างดี
3. พาไปจุดที่รถติด เพื่อเทส การเบรค การเร่ง ว่าเบรคนุ่มมั้ย ค่อยๆเร่งๆมั้ย กระชากรึปล่าว และ เป็นการเทสด้วยว่า เวลารถติดแล้วมีอาการ อารมณ์เสีย หงุดหงิดแค่ไหน
4. พาไปจุดที่รถวิ่งได้เร็ว เพื่อเทส การขับรถ ว่ามีการขับปาดหน้าคัดอื่นๆมั้ย ขับชิดคันอื่นแค่ไหน
5. ขับขึ้นลง คอนโด สำหรับรถหลายๆคันที่เตี้ย หรือติดสเกิร์ต หากลงจากคอนโด โดยไม่ระวัง รถก็อาจจะขูดได้ และ การหมุนขึ้นคอนโด อย่างที่ถูกต้องก็ไม่ควรจะเหวี่ยงเกินไป ทำให้ คนนั่งปวดหัว
6. ทดสอบจอดรถ ให้ทดสอบการจอดรถเข้าซอง และ จอดรถแบบขนาบข้าง เพื่อดูความสามารถในการ กะระยะ หากถอยเกิน 2 ครั้ง ยังเข้าซองไม่ได้ ก็ ไม่เวิร์คแล้วครับ
7. ในระหว่างการนั่งรถไปด้วย คุณจะได้มีโอกาส พูดคุยเพิ่มเติมว่า พนักงานของคุณพูดมากเกินไป พูดน้อยเกินไปมั้ย คุณยังสามารถเช็คกลิ่นตัว กลิ่นปาก ต่างๆได้ อีกด้วย

5. ตรวจประวัติอาชญากรรม และ ยาเสพติด

 ตรวจประวัติอาชญากรรม

นี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่คุณควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ให้เตรียมเอกสารดังนี้

1. หนังสือนำส่ง เขียนให้ชัดเจนว่ามีเหตุใดจึงจำเป็นต้องตรวจประวัติอาชญากร

2. แบบฟอร์มในการขอตรวจประวัติ ดาวโหลดได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/

3. หนังสือยินยอมจากพนักงาน + สำเนาบัตรประชาชน เซ็นยินยอมด้วยปากกาสีน้ำเงินเท่านั้น

นำไปยื่นที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร

การตรวจยาเสพติด

• คุณสามารถซื้ออุปกรณ์ตรวจยาเสพติดมาให้พนักงานตรวจได้ จากร้านขายยาทั่วไป (ตอนตรวจอย่าลืมยืนเฝ้า)

กำลังหาพนักงานขับรถส่วนตัวอยู่รึปล่าวครับ?

เรามีบริการนะ